ข้อมูลทั่วไป
กระบี่ เมืองชายทะเลในฝัน งดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส ปะการังสวย ถ้ำโตรกชะโงกผา และหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ รวมกันเป็นมนต์เสน่ห์ ที่สร้างความประทับใจ ให้แก่นักท่องเที่ยว ที่มาเยือน
กระบี่ เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 814 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 4,708 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยภูเขา ที่ดอน ที่ราบ หมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 130 เกาะ อุดมไปด้วยป่าชายเลน ตัวเมืองกระบี่ มีแม่น้ำยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไหลผ่านลงสู่ทะเลอันดามัน ที่ตำบลปากน้ำ นอกจากนี้ ยังมีคลองปกาสัย คลองกระบี่ใหญ่ และคลองกระบี่น้อย มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาที่สูงที่สุด ในจังหวัดกระบี่ คือ เทือกเขาพนมเบญจา
จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานได้ว่า บริเวณเมืองกระบี่ เคยเป็นแหล่งชุมชนโบราณ ที่เก่าแก่มากแห่งหนึ่ง ในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และต่อเนื่องมาจนถึงสมัยประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีข้อสันนิษฐาน เกี่ยวกับชื่อเมืองกระบี่ ว่า อาจมาจากความหมาย ที่แปลว่าดาบ เนื่องจากมีตำนานเล่าสืบต่อกันมา เกี่ยวกับการขุดพบมีดดาบโบราณ ก่อนที่จะสร้างเมือง
ตัวเมืองกระบี่ เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีเขาขนาบน้ำ ที่เป็นจุดเด่นของเมือง คู่กับป่าชายเลนที่สมบูรณ์ เขียวชอุ่ม ทำให้บรรยากาศ ดูร่มรื่นสบายตา นักท่องเที่ยว สามารถพายเรือแคนู เพื่อเป็นการพักผ่อน และออกกำลังกาย หรือในช่วงเย็นแดดร่ม อากาศสบาย ๆ สามารถเดินเล่นรับลม พร้อม ๆ กับนั่งรับประทานอาหารเย็น ได้ที่ตลาดโต้รุ่ง บริเวณท่าเรือเจ้าฟ้า และบริเวณตลาด ถนนมหาราช ก็มีอาหารพื้นเมืองให้รับประทาน ทั้งขนมจีนน้ำยา น้ำพริก แกงไตปลา ไก่ทอดพื้นเมือง รสชาติกลมกล่อม และสำหรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว ตามหาด หรือเกาะต่าง ๆ เช่น หาดไร่เลย์ อ่าวนาง เกาะลันตา เกาะพีพี เกาะจำ และเกาะสีบอยา สามารถลงเรือโดยสาร หรือติดต่อเช่าเรือ ได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้า ในอำเภอเมือง
ประวัติความเป็นมา
จังหวัดกระบี่ ตั้งขึ้นในปลายรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในอดีต เป็นเพียงแขวงหนึ่ง อยู่ในอำนาจการปกครอง และบังคับบัญชา ของเมืองนครศรีธรรมราช เรียกว่า "แขวงเมืองปกาสัย" พระยาผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราช ให้ปลัดมาตั้งค่ายทำพะเนียดจับช้าง ของท้องที่ตำบลปกาสัย และได้มีราษฏร จากเมืองนครศรีธรรมราช อพยพมาตั้งหลักแหล่ง ทำมาหากิน เพิ่มมากขึ้น พระปลัดได้ยกตำบลปกาสัย ขึ้นเป็น "แขวงเมืองปกาสัย" ขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช
ประมาณปี พ.ศ.2415 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองปกาสัย และทรงพระราชทานนามว่า "เมืองกระบี่" เมื่อได้ประกาศตั้งขึ้นเป็นเมืองแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งที่ทำการ อยู่ที่ตำบลกระบี่ใหญ่ (บ้านตลาดเก่า) ในท้องที่อำเภอเมืองกระบี่ ปัจจุบัน มีหลวงเทพเสนา เป็นเจ้าเมืองกระบี่ คนแรก ต่อมาในปี พ.ศ.2418 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกเมืองกระบี่ ออกจากการปกครอง ของเมืองนครศรีธรรมราช เป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ และในปี 2443 สมัยพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ได้พิจารณาเห็นว่า ศาลากลางจังหวัด ที่บ้านตลาดเก่านั้น ไม่สะดวกต่อการคมนาคม เพราะสมัยนั้น ต้องอาศัยเรือเป็นพาหนะ จึงได้ย้ายที่ตั้งเมือง ไปอยู่ตำบลปากน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้ปากอ่าว เป็นร่องน้ำลึก เรือใหญ่สามารถเข้าเทียบท่า ได้สะดวก ทำให้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด จนถึงปัจจุบันนี้ความหมายของคำว่า " กระบี่" มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า ชาวบ้านได้ขุดพบมีดดาบโบราณใหญ่เล่มหนึ่ง นำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ และต่อมาไม่นาน ก็ขุดพบมีดดาบโบราณเล็ก อีกเล่มหนึ่ง รูปร่างคล้ายกับมีดดาบโบราณเล่มใหญ่ จึงนำมามอบให้กับเจ้าเมืองกระบี่ เช่นกัน เจ้าเมืองกระบี่ เห็นว่า เป็นดาบโบราณ สมควรเก็บไว้เป็นดาบคู่บ้านคู่เมือง เพื่อเป็นศิริมงคล แต่ขณะนั้น ยังสร้างเมืองไม่เสร็จ จึงได้นำดาบ ไปเก็บไว้ในถ้ำ เขาขนาบน้ำ หน้าเมือง โดยวางไขว้กัน ซี่งลักษณะการวาง ทำให้เป็นสัญลักษณ์ ของตราประจำเมือง คือ ดาบไข้วทาบอยู่บนภูเขาขนาบน้ำ และบ้านที่ขุดพบดาบใหญ่ ได้ตั้งชื่อว่า "บ้านกระบี่ใหญ่" บ้านที่ขุดพบดาบเล็ก ได้ตั้งชื่อ "บ้านกระบี่น้อย" แต่มีอีกตำนานหนึ่ง สันนิษฐานว่า คำว่า "กระบี่" อาจเรียกชื่อ ตามพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ที่มีมากในท้องถิ่น คือต้น "หลุมพี" เรียกชื่อว่า "บ้านหลุมพี" มีชาวมลายู และชาวจีนที่เข้ามาค้าขาย ได้เรียกเพี้ยนเป็น "กะ-ลู-บี" หรือ "คอโลบี" ต่อมาได้ปรับเป็นสำเนียงไทยว่า"กระบี่"
สัญญลักษณ์ ประจำจังหวัด
รูป กระบี่ ไขว้ เบื้องหลังมีภูเขาและทะเล
กระบี่ ไขว้ หมายถึง ดาบโบราณซึ่งครั้งหนึ่ง มีผู้ค้นพบในท้องที่จังหวัด
ภูเขา คือ เทือกเขาพนมเบญจาที่สูงสุดในแถบนั้น มีเมฆปกคลุมตลอดเวลา และกั้นเขตแดนกับจังหวัดอื่น
ทะเล คือ ชายอาณาเขตอีกด้านหนึ่งซึ่งติดต่อกับมหาสมุทรอินเดีย
จังหวัดกระบี่ ใช้อักษรย่อว่า "กบ"
ต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัด "ทุ้งฟ้า"
การเกษตร
- ยางพารา ในปี 2545 ผลิตได้จำนวน 195,966 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2544 จำนวน 6,072 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.20 โดยมีเนื้อที่เพาะปลูกในปี 2545 เป็นจำนวน 879,689 ไร่ ลดลงจากปี 2544 เป็นจำนวน 7,558 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.85 และมีรายได้เฉลี่ย 4,039 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 87 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.20
- ปาล์มน้ำมัน ในปี 2545 ผลิตได้จำนวน 1,580,570 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2544 จำนวน 319,566 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 25.34 โดยมีเนื้อที่เพาะปลูกในปี 2545 เท่ากับปี 2544 เป็นจำนวน 761,706 ไร่ และมีรายได้เฉลี่ย 2,671 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 540 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.34
- กาแฟ ในปี 2545 ผลิตได้จำนวน 11,318 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2544 จำนวน 1,323 ตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 13.24 โดยมีเนื้อที่เพาะปลูกในปี 2545 เป็นจำนวน 41,478 ไร่ ลดลงจากปี 2544 เป็นจำนวน 141 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.34 และมีรายได้เฉลี่ย 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 23 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.78
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทิศใต้ ติดกับจังหวัดตรังและทะเลอันดามัน
ทิศตะวันออก ติดกับจังหวัดนครศรีธรรมราช
ทิศตะวันตก ติดกับจังหวัดพังงาและทะเลอันดามัน
คำขวัญประจำจังหวัด
กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น